
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Facebook วิพากษ์วิจารณ์บทความชุดหนึ่งของ Wall Street Journal ซึ่งเป็นบทความเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบของโซเชียลมีเดียต่อผู้ใช้
Facebook กล่าวว่าบทความดังกล่าวมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยเจตนา และยังแสดงข้อมูลที่เป็นเท็จที่ร้ายแรงต่อความเป็นผู้นำและพนักงานของ Facebook บทความชุดนี้อิงตามข้อมูลที่คัดมาจากเอกสารภายในของ Facebook และการสนทนาออนไลน์ของพนักงาน ได้รายงานว่าบริษัทตระหนักถึงผลร้ายของแพลตฟอร์ม แต่ก็ไม่ได้แก้ไขอะไร
Wall Street Journal พบว่า Facebook ยกเว้นกฎบางอย่างหรืออาจทั้งหมดให้ผู้ใช้ที่มีชื่อเสียงหลายล้านคน ละเลยการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบของ Instagram ที่มีต่อวัยรุ่นสาว และทำการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมเพื่อปรับปรุงการโต้ตอบบนแพลตฟอร์มที่ทำให้ผู้ใช้โกรธมากขึ้น
ในวันเสาร์ที่ผ่านมา Nick Clegg รองประธานฝ่ายกิจการระดับโลก ได้เขียนหัวข้อในบล็อกว่า What the Wall Street Journal Got Wrong โดยมีใจความว่า "นี่เป็นปัญหาที่ร้ายแรงและซับซ้อน และถือเป็นเรื่องชอบด้วยกฎหมายที่เราจะต้องพิจารณาว่าจะจัดการกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร โดยบทความเหล่านั้นได้แสดงเจตนาของเราผิดไปจากสิ่งที่เรากำลังพยายามจะทำ และได้ให้ข้อมูลเท็จอย่างร้ายแรงต่อผู้นำและพนักงานของ Facebook นอกจากนี้การกล่าวหาว่าบริษัทจงใจเพิกเฉยต่อการวิจัยนั้นไม่ใช่เรื่องจริง สิ่งนี้ขัดต่อแรงจูงใจและการทำงานอย่างหนักของนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบาย และวิศวกรหลายพันคนที่ Facebook ที่พยายามปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ และเพื่อทำความเข้าใจผลกระทบในวงกว้างทั้งเชิงบวกและเชิงลบ”
อย่างไรก็ตาม The Wall Street Journal ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการวิพากษ์วิจารณ์ในครั้งนี้
ที่มา: Wynnsoft Solution สร้างโอกาสให้คนรู้จักสินค้าและบริการแบบก้าวกระโดด ด้วยการสร้างเว็บไซต์ที่ Wynnsoft Solution เรามีเว็บไซต์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เรารับทำเว็บไซต์โรงแรม รับทำเว็บไซต์ขายของ ไปจนถึงเว็บไซต์สำเร็จรูป WordPress ระบบใช้งานง่าย ดีไซน์สวยงามตรงตามความต้องการ ไม่ทิ้งบริการหลังการขาย
Wynnsoft Solution
ตอบลบ